วันอิสรภาพโลก: ประวัติศาสตร์ของกําแพงเบอร์ลิน
วันที่ 9 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันที่สําคัญยิ่งต่อประวัติศาสตร์โลก เพราะเป็นวันที่กําแพงเบอร์ลินถูกทําลายลงในปี ค.ศ. 1989 กําแพงนี้เป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งแยกเยอรมนีและยุโรปตะวันออกกับตะวันตกมานานกว่า 28 ปี
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เยอรมนีถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน โดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหภาพโซเวียตควบคุมแต่ละส่วน กรุงเบอร์ลินซึ่งอยู่ทางตะวันออก ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนโดยมหาอํานาจตะวันตกและสหภาพโซเวียต
ในปี 1961 สหภาพโซเวียตเริ่มสร้างกําแพงคอนกรีตที่มีลวดหนามยาว 155 กิโลเมตร เพื่อกั้นเบอร์ลินตะวันออกและตะวันตก กําแพงนี้ทําให้ชาวเบอร์ลินไม่สามารถเดินทางข้ามไปมาหาสู่กันได้อย่างเสรี สร้างความแตกแยกอย่างมากระหว่างฝ่ายตะวันออกและตะวันตก
กําแพงเบอร์ลินจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์ที่แตกต่าง คือ ทุนนิยมตะวันตกกับคอมมิวนิสต์ตะวันออก รวมถึงสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ ทําให้ชาวเยอรมันและยุโรปจํานวนมากเรียกร้องให้ทําลายกําแพงนี้ลง
ในที่สุด เมื่อ 28 ปีผ่านไป กําแพงเบอร์ลินถูกทําลายลงในวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 หลังการประท้วงอย่างหนักของประชาชน ทําให้เกิดการรวมชาติเยอรมนีอีกครั้งในปี 1990 และเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของสหภาพโซเวียตและคอมมิวนิสต์ตะวันออกในเวลาต่อมา
นับตั้งแต่นั้น วันที่ 9 พฤศจิกายนจึงกลายเป็น “วันอิสรภาพโลก” เพื่อเป็นการรําลึกถึงเหตุการณ์สําคัญทางประวัติศาสตร์นี้ และเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของเสรีภาพและประชาธิปไตยที่สําคัญยิ่ง
กําแพงเบอร์ลินจึงไม่เพียงแต่แบ่งแยกเยอรมนีและยุโรปเท่านั้น แต่ยังแบ่งแยกโลกออกเป็น 2 ขั้วอุดมการณ์ที่ต่างกันขั้ว การทําลายมันลงจึงมีความหมายมากกว่าเพียงการรวมชาติเยอรมนี แต่เป็นชัยชนะของเสรีภาพที่ยิ่งใหญ่ วันอิสรภาพโลกจึงเป็นวันแห่งความทรงจําที่สําคัญ ที่จะต้องรําลึกถึงเสมอไป